บทที่3
การพัฒนาทักษะการฟังสำหรับครู
การฟังเป็นการรับสารอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการอ่าน เพราะการฟังทำให้รับรู้เรื่องราวข่าวสารหรืเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เป็นคนที่ทันสมัย อีกทั้งยังสมารถนำสิ่งที่ได้พึงไปใช้ในการสนทนาพูดคุยกับบุคคลอื่นในสังคมเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน อย่างไรก็ตาม การฟังให้เกิดประโยชน์ ดังนั้นการพัฒนาทักษะการฟังจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
วัตถุประสงค์ของการฟัง
กาฟังแต่ละครั้งย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกับ ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น
๒ ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
1.การฟังเพื่อความรู้ การฟังเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ ข่าวสาร ต่าง ๆ จากบรรยาย การอภิปราย ในสถานที่และโอกาสต่าง ๆ จกวิทยุ โทรทัศน์ แถบบันทึกเสียง วีติทัศน์ ภาพยนต์ การฟังทำให้มีควนรู้กว้างขวาง
2.การฟังเพื่อความบันเทิง ในแต่ละวันคนเราประกอบกิจการงานอย่างคร่งเครียด จึงต้องการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยและปัญหาในการทำงาน การฟังขึ้นอยู่กับรสนิยมและความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น การฟังเพลง ฟังทอล์กโชว์ ฟังรายการวิทยุ เป็นต้น
1. มีจุดมุ่งหมายในการฟัง การตั้งจุดมหมายในการฟังจะทำให้ผู้ฟังมี
จิตใจจดจ่อเกี่ยวกับสิ่งที่ฟังหรือมีแนวทางในการฟังมากยิ่งขึ้นวจะฟังเพื่ออะไร ซึ่งจะตีกว่าการฟังอย่างเลื่อนลอย ไร้จุดหมาย
2. มีสมาธิ ขณะฟังมีความสนใจ พยายามคิดติดตามเรื่องที่ฟัง ในขณะเดียวกันการมีสมาธิจะทำให้มี
กิริยาทำทางที่สำรวม แสดงให้เห็นมารยาทในขณะที่ฟังด้วย
3. ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ การฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ขาดตอน จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจเรื่องราวติดต่อกันโดยสามารถสรุปประเด็นได้ว่าผู้พูดต้องการจะสื่อสาร
เรื่องใด หากฟังไม่ปะติดปะต่อกันอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดความ
เข้าใจคลาดเคลื่อนได้
4. จับสาระสำคัญ วิเคราะห์ ตีความ และประเมินคุณค่าได้ การฟัง
แต่ละครั้งผู้ฟังจะต้องจับประเด็น
ของเรื่องที่ฟังได้ คือรู้ว่าผู้พูดต้องการสื่อสารเรื่องอะไร หรือใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำไม เป็นต้น
5. มีมารยกในการฟัง การมีมารยาทจะทำให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ได้รับการอบรมค้นมารยาทในการอยู่บุคคลอื่นในสังคมมาเป็นอย่างดี ต้องสำรวม ไม่แสดงท่าทางที่ไม่สุภาพ. ไม่ก่อความรำคาญให้แก่คนรอบข้าง หรือกระทำการใด ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น